ประชากรคนหนึ่งคนสร้างขยะโดยเฉลี่ยมากถึง 1.15 กิโลกรัมต่อวัน และตัวเลขนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี วิธีการกำจัดขยะที่เคยใช้ได้ผลในปัจจุบันจึงเริ่มไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เป็นเหตุให้เราเกิดแนวคิดและนำนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ ทั้งการนำขยะไปผ่านกระบวนการเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า การนำขยะไปเปลี่ยนเป็นพลังงานเชื้อเพลิงอื่นๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด จนมาถึงเทคโนโลยีที่น่าสนใจที่จะสร้างประโยชน์ให้กับมนุษย์ในการจัดการขยะอีกสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือเทคโนโลยี “Incineration”
Incineration คือ กระบวนการเผาขยะในเตาเผา ซึ่งเป็นเตาที่ได้รับการออกแบบมาให้มีคุณสมบัติสอดคล้องกับลักษณะของขยะที่จะทำการเผา ไฮไลท์ของนวัตกรรมชิ้นนี้เรื่องของค่าความชื้น และระดับความร้อนที่ปรับเปลี่ยนได้ หากมองแบบผิวเผินก็จะเห็นเป็นเพียงการกำจัดขยะด้วยวิธีเผาทั่วไป แต่เมื่อลงในรายละเอียดก็จะรู้ว่า แนวทางในการออกแบบเครื่องเตาเผาที่เหมาะสม ทำให้ได้ผลผลิตและพลังงานเชื้อเพลิงที่ดี สามารถแยกออกเป็นหลายๆ ส่วน และแต่ละส่วนก็จะถูกเอาไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบแตกต่างกัน
ขี้เถ้าหลังการเผาไหม้ ซึ่งมีปริมาณประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของมวลขยะทั้งหมด จะถูกใช้เป็นวัสดุฝังกลบหรือวัสดุปูพื้น ขึ้นอยู่กับลักษณะของขี้เถ้าที่ได้ ตรงนี้จะมีระบบคัดกรองอยู่ด้วย
ก๊าซเชื้อเพลิงความร้อน จะถูกส่งลำเลียงไปผ่านกระบวนการอีกหลายขั้นตอน เพื่อแปลงให้เป็นก๊าซพลังงานที่สามารถใช้กับระบบน้ำร้อนในอุตสาหกรรมต่างๆได้ และที่สำคัญยังสามารถนำไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตเป็น ไฟฟ้าพลังงานสะอาด ได้อีกด้วย สามารถสร้างประโยชน์ให้กับหลายพื้นที่ที่ต้องการไฟฟ้าได้
ขยะบางส่วน จะถูกคัดแยกออกมาเพื่อนำไปผลิตเป็นเชื้อเพลิง ในรูปแบบอื่นๆ
Incineration จึงกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยในการจัดการขยะในหลายพื้นที่ ซึ่งนอกจากประโยชน์ในการจัดการขยะแล้ว ยังสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนได้ด้วยประโยชน์สูงสุดในการเผา นั่นคือไฟฟ้าพลังงานสะอาด ดั่งเจตนารมณ์ของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ที่คาดหวังให้ทุกพื้นที่ในประเทศไทยใช้พลังงานสะอาดพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคนอย่างยั่งยืน
Commentaires