top of page

รู้หรือไม่ ! ใช้ชีวิตอย่างไรให้ถนอมโลก 🌱☘️


พายุฝนถล่ม หิมะตกหนัก ❄️ ไฟป่าลุกลาม น้ำทะเลรุกคืบกลืนกินพื้นที่ชายฝั่ง ล้วนเป็นสัญญาณเตือนภัยจากธรรมชาติ ที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) หรือ “สภาวะโลกรวน” คำสั้นๆ แต่สร้างผลกระทบยิ่งใหญ่ต่อมวลมนุษยชาติ และเป็นภัยคุกคามที่ธรรมชาติคืนกลับให้แก่มนุษย์โลก ซึ่งทุกวันนี้องค์การสหประชาชาติและนานาประเทศได้ร่วมมือกันจัดทำเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ☘️โดยให้ความสำคัญกับเรื่อง Climate Action เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโลกของเรา ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงเจเนอเรชันต่อไป ❗️

.

👉คราวนี้ลองมาเช็กลิสต์กันดีกว่าว่าในวิถีชีวิตประจำวันของเรามีส่วนทำร้ายโลกมากแค่ไหน !! เริ่มตั้งแต่ไลฟ์สไตล์ในทุกๆ วันที่ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ปริมาณมหาศาล และเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสภาวะ “โลกร้อน” โดยที่เราอาจไม่รู้ตัว

• เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว วันละ 40 กม. ปล่อย CO2 1,500 กก./ปี

• กินอาหารเหลือทิ้ง วันละ 1 กก. ปล่อย CO2 920 กก./ปี

• เสียบปลั๊กทีวีทิ้งไว้ วันละ 20 ชม. ปล่อย CO2 8 กก./ปี

• เปิดไฟจากหลอดแอลอีดี 8 วัตต์ทิ้งไว้ วันละ 8 ชม. ปล่อย CO2 11 กก./ปี

• เปิดแอร์ 23 องศา วันละ 8 ชม. ปล่อย CO2 1,850 กก./ปี

.

แม้กระทั่งภาคการเกษตร 👩‍🌾 อย่างนาข้าวและการเลี้ยงปศุสัตว์ต่างๆ ก็เป็นแหล่งปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นเหตุสำคัญในการเกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกที่สร้างผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมถึงภาคอุตสาหกรรม ก็เป็นกลไกหนึ่งที่สร้างมลภาวะจากการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศด้วยเช่นกัน 🌳🌳

.

นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่า สิ่งต่างๆ รอบตัวเราทุกคนเหล่านี้ สามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ และเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสภาวะโลกรวน 🌎 แปรปรวนไปหมด โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยแค่ 1 องศา แต่ก็ส่งผลมากมายต่อสภาวะของโลกที่อาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงตาม ทำให้พื้นที่ส่วนพื้นดินมีแนวโน้มลดลง สวนทางกับจำนวนประชากรบนโลกที่มากขึ้นทวีคูณ 👨‍👩‍👧‍👦 และยังส่งผลต่อระบบนิเวศของสัตว์ขั้วโลก เช่น เพนกวิน หมีขั้วโลก ที่อาจต้องสูญพันธุ์เพราะไม่มีที่อยู่อาศัย หรืออาจมีการกลับมาแพร่ระบาดของไวรัสและแบคทีเรียที่ฝังอยู่ใต้ชั้นน้ำแข็งมานานหลายสิบปี สู่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในแถบขั้วโลกอีกครั้งก็เป็นได้

.

เท่านั้นยังไม่พอ สภาวะโลกร้อนยังทำให้อุณหภูมิของน้ำทะเลร้อนยิ่งกว่าเดิม 🔥 โดยในปี 2018 ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นปีที่มหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงสุดเท่าที่เคยมีการบันทึกสถิติมา ส่งผลให้หลายพื้นที่จะต้องเผชิญกับสภาพภูมิอากาศแปรปรวนบ่อยครั้ง เช่น การเกิดพายุที่มีความรุนแรงผิดปกติ โดยจะเห็นได้จากช่วงปีที่แล้ว (ค.ศ. 2022) มีพายุรุนแรงเกิดขึ้นในหลายประเทศ เช่น เฮอริเคนเอียนที่ถล่มหลายรัฐในสหรัฐอเมริกาพังราบคาบ หรือแม้กระทั่งพายุไต้ฝุ่นโนรู ที่พัดเข้าถล่มเวียดนาม ฟิลิปปินส์ รวมถึงทางภาคอีสานของไทย ที่สร้างผลกระทบรุนแรงในเส้นทางที่พายุพัดผ่าน 🌪

.

สถานการณ์คลื่นความร้อนก็มีทีท่าเพิ่มสูงมากขึ้นและทำลายป่าไม้หลายแห่ง ทำให้เกิดไฟป่าได้ง่ายขึ้น และลุกลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ปีนี้ประเทศไทยก็มีไฟป่าครั้งใหญ่ที่ จ.นครนายก เมื่อต้นเดือนเมษายน 2566 ที่ใช้เวลาถึง 5 วันกว่าจะคุมไฟป่าได้สำเร็จ ทำให้พื้นที่ป่าเสียหายไปเกือบ 2,000 ไร่ สูญเสียทั้งต้นไม้ในป่าและชีวิตของสัตว์ป่าน้อยใหญ่มากมาย รวมทั้งส่งผลต่อสุขภาพประชาชนโดยรอบจากฝุ่นควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่กลายเป็นมลพิษทางอากาศซ้ำเติมเข้าไปอีก มิหนำซ้ำดัชนีความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปียังเป็นภัยต่อชีวิตจากโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก ที่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้ 😲⛅️

.

👉เพื่อถนอมโลกให้น่าอยู่ไปนานๆ มนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างเราทุกคนก็สามารถช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ โดยเริ่มต้นที่ตัวเรา ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ลดการเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยการเลือกใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด และลดฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 😷🤧 ที่เป็นพิษต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยของเรามีอย่างเหลือเฟือ และพลังสะอาดที่ปลอดมลพิษ อย่างการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ เพื่อนำมาผลิตพลังงานไฟฟ้าใช้ภายในบ้าน ที่คุ้มค่าแก่การลงทุนในระยะยาว หรือใครจะเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานโซลาร์เซลล์ เช่น โคมไฟหน้าบ้าน ที่ช่วยประหยัดค่าไฟได้เช่นกัน

.

เราทุกคนยังสามารถช่วยกัน “เปลี่ยน” เพื่อสิ่งที่ดีกว่า และทำร้ายโลกให้น้อยลงได้ เช่น ลดการใช้สารเคมีในชีวิตประจำวัน หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมธรรมชาติ เพื่อช่วยลดการปนเปื้อนของสารเคมีลงสู่แม่น้ำลำคลอง และอย่ากินทิ้งกินขว้าง เพราะกระบวนการผลิตอาหารก็ล้วนสร้างมลภาวะสู่โลกด้วยเช่นกัน 👉🥰🍀

.

ใครไม่เปลี่ยน แต่โลกกำลังเปลี่ยน ! วันนี้ยังไม่สายเกินไปที่เราทุกคนต้องเร่งตระหนัก และช่วยกันคนละไม้ละมือ เพื่อลูกหลานเราในอนาคตจะยังมีโลกที่สวยงามและน่าอยู่ต่อไปอีกตราบนานเท่านาน 🍀🥰⛅️

.

ที่มา: https://scgnewschannel.com/th/scg-news/scg-invites-thai-people-to-adjust-their-lifestyles-to-help-reduce-global-warming)

https://www.scimath.org/article-earthscience/item/11328-2020-03-06-07-26-49)

Yorumlar


bottom of page